Submit/การส่งบทความ

Submit

1. Paper Format (Template-BEE-English v3). Format and content of the paper include a clear and concise title, author’s name and position, email for contact, 250 words or less abstract, 4 keywords or less, and less than 5000 words or less than 15 pages paper. The manuscript have to be in A4 paper size saved in digital DOC or DOCX or PDF file format.
2. The content of the paper have to be academic version with standard format including introduction, methodology, results, conclusion and APA Style 6th Edition reference.
3. The final manuscript can be submitted at the journal email: journal.bee.thailand@gmail.com

Submission and peer review process

1. The Authors submit paper to the email: journal.bee.thailand@gmail.com
2. Editorial board checks the paper’s composition and arrangement against the journal’s Author Guidelines to make sure it includes the required sections and stylizations before pass to the peer review process.
3. Editor send a double-blinded paper to tree peer reviewers per paper. A minimum of 2 peer reviewers have to accept the paper before further process.
4. Editor inform result of peer review to the author.
5. The author may request to have a minor or major change of the paper following the peer review suggestions before resubmit the final one to the journal
6. The author of the complete process paper will receive an accepted letter from the editor before the publication.
7. Before online publication, editorial board will send the final paper to the author for final check.
8. If the author does not respond to the final check process in time, editorial board will make the final decision before publication.

การส่งบทความ และข้อมูลแนะนำสำหรับผู้เขียนบทความ

1. แบบฟอร์มเอกสารบทความเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ (ตัวอย่างแบบฟอร์มบทความ) มีรูปแบบบทความและส่วนประกอบของบทความที่กำหนด ประกอบด้วย ชื่อเรื่องของบทความจะต้องมีความกระชับ สื่อสารได้ชัดเจน (ชื่อเรื่องภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) ชื่อผู้เขียน (ชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ตำแหน่ง email ติดต่อ) บทคัดย่อไม่เกิน 250 คำ (มีบทคัดย่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) คำสำคัญไม่เกิน 4 คำ และเนื้อหาของบทความไม่เกิน 5000 คำ หรือไม่เกิน 15 หน้า ขนาดกระดาษ A4 ในรูปแบบเอกสาร Digital DOC หรือ DOCX หรือ PDF
2. เนื้อหาของบทความใช้ภาษาที่เป็นวิชาการ มีรูปแบบของประโยคที่เป็นสากล มีการเว้นวรรค มีตัวเลขกำกับหัวเรื่อง เช่น บทนำหรือความเป็นการและความสำคัญของบทความ กระบวนการหรือวิธีการดำเนินการศึกษา ผลการศึกษา การอภิปรายผล การสรุปผลและข้อเสนอแนะ กิตติกรรมประกาศ และเอกสารอ้างอิงหรือบรรณานุกรมในรูปแบบ APA Style 6th Edition
3. ส่งแบบฟอร์มนำเสนอบทความและบทความที่ได้ดำเนินการเสร็จแล้วตามรูปแบบที่กำหนด มาที่ Email : journal.bee.thailand@gmail.com

ขั้นตอนการส่งและพิจารณาบทความ

1. ผู้นิพนธ์บทความ ส่งเอกสาร ได้แก่ เอกสารนำเสนอบทความเพื่อพิจารณา และเอกสารบทความ มาที่ Email : journal.bee.thailand@gmail.com
2. กองบรรณาธิการวารสาร BEE พิจารณาชื่อเรื่องและเนื้อหาของบทความ ความเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์และขอบเขตของวารสาร BEE ประเมินคุณภาพของบทความ และตัดสินการรับพิจารณาบทความเพื่อเข้าสู่กระบวนการประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ต่อไป
3. บรรณาธิการวารสาร BEE ส่งบทความให้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Reviewers) พิจารณาและประเมินคุณภาพของบทความ จำนวน 3 ท่าน โดยปกปิดชื่อด้วยวิธีแบบอำพรางสองฝ่าย (Double-blinded) โดยผลการประเมินบทความจากผู้ทรงคุณวุฒิต้องให้ผ่าน 2 ใน 3 ท่าน ตามแบบฟอร์มการประเมินบทความ (ตัวอย่างแบบฟอร์มประเมินบทความ)
4. บรรณาธิการแจ้งผลประเมินบทความโดยผู้ทรงคุณวุฒิแก่ผู้นิพนธ์บทความ
5. กรณีที่ผู้ทรงคุณวุฒิให้ผ่านโดยมีการแก้ไขเล็กน้อยหรือมีข้อเสนอแนะให้แก้ไขนั้น ผู้นิพนธ์บทความจะต้องดำเนินการแก้ไขบทความตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิ โดยมีการชี้แจ้งตามแบบฟอร์มเอกสารชี้แจงการแก้ไขบทความ ตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิ (ตัวอย่างแบบฟอร์มเอกสารชี้แจง) แล้วให้ผู้นิพนธ์ส่งบทความฉบับที่แก้ไขแล้วและการชี้แจ้งตามแบบฟอร์มเอกสารชี้แจง ส่งกลับมาที่วารสาร BEE เพื่อให้บรรณาธิการตรวจสอบและนำส่งให้ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาและประเมินบทความฉบับแก้ไขต่อไป
6. บทความที่ได้รับการพิจารณาให้ผ่านและรับตีพิมพ์ตามกระบวนการของวารสาร BEE จะได้รับเอกสารหนังสือตอบรับการตีพิมพ์จากบรรณาธิการ โดยจะมีการเผยแพร่ต่อไป
7. การเผยแพร่บทความ กองบรรณาธิการจะจัดพิมพ์บทความตามรูปแบบสิ่งพิมพ์ของวารสาร BEE โดยจะมีการส่งให้ผู้นิพนธ์บทความได้ตรวจสอบความถูกต้องก่อนเผยแพร่
8. หากผู้นิพนธ์บทความไม่ตรวจสอบรูปแบบสิ่งพิมพ์ หรือตรวจสอบล่าช้า หรือเหตุใดๆ อันทำให้ส่งผลต่อการเผยแพร่ของวารสารนั้นถือว่าผู้นิพนธ์ให้บรรณาธิการเป็นผู้วินิจฉัย และคำวินิจฉัยนั้นให้ถือเป็นที่สุด